Blogger picture menu

Monday, February 19, 2024

[รีวิวน้ำหอม] Portrait of a Lady โดย Frederic Malle

Portrait of a Lady โดย Frederic Malle

เป็นน้ำหอมที่ใส่ซักพักถึงจะพอเข้าใจในโครงสร้างของกลิ่นได้ POTL

เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ ที่มาพร้อมกับกลิ่นธูปที่ติดเย็น และมีกลิ่นหวานอ่อนๆในเชิงผลไม้เค้ามาแจม
ไม่ค่อยได้กลิ่นที่เป็นโทนแอมเบอร์หรือแพทชุรี่ชัดมาก คิดว่าน่าจะเบลนด์ไปในกลิ่นธูปเย็นๆมากกว่า
เบลนด์ออกมาได้กลมกล่อม

กลิ่นกระจายค่อนข้างปานกลางถึงอ่อน ออกแนวกระจายรอบตัวเบาๆ
ติดค่อนข้างทน กระจายตัวอ่อนๆ ถือว่าไม่เป็นน้ำหอมที่ใช้ไม่ยากจากบ้าน Frederic Malle

คะแนน 7/10

Thursday, February 24, 2022

THREE Brushes : Introduction / Part 1 Review [THREE Face Brush L]

THREE Brushes : Introduction / Part 1 Review [THREE Face Brush L] 

If you follow the Fude manufacture by the cosmetic brands like Lunasol, RMK or SUQQU you may one day come across THREE which is less known in Japanese cosmetic brands.

THREE is cosmetic brand by ACRO INC., individual Japanese cosmetic company difference from Lunasol, RMK or SUQQU which all own by Kanebo. However, THREE is take much difference approach as it is more western-oriented brand than Lunasol, RMK or SUQQU which is more Japanese-oriented.

I was on a hunt for big paddle shape powder brush where can I press the setting powder into the skin.
I test one "THREE Face Brush L" and surprisingly it is preform very well, make me want to investigate deeper into other brush.

I now own 6 of them (Face L, Face M, Face S, Blend in Angle, Blusher and Eyebrow). I would say that even the brush may not look as good as other brand. I find the brush shape is versatile, practical and functional. Even it is not soft as other squirrel brushes in my collection. It preforms petty well in it own right worth mentioning in Fude world.

However, please be aware that THREE is easy-accessible brand in Thailand as we have importer.
You may have to consider the price in your country and other option available as well. I am debating to buy the eye shader brush, I will consider later on at one point.


Appearance 
All THREE brush is manufacture by Chikuhodo the brand which well known for it soft squirrel brush. The brush is all black from top to bottom in satin finish. The handle is longer than usual Fude. The handle is wood and I was told by make up community that the handle is Cheery Blossom (Sakura) wood. It is not confirmed in Website. The ferrule is probably made by Aluminum

THREE brush have huge collection of brush for your selection you can review other brush in the collection here.

In this Part 1; I will review only Face Brush L.
I will put my local price (Thai Bath) as price reference.

Face Brush L (¥7,000 / THB 3,800)
Sokoho Goat Hair + Squirrel
"It is slant-asymmetrical paddle dense powder brush, 5.2cm in length, 4cm in width. 
The ferrule base is 1.7cm / 2.3cm respectively. I can feel goat more than squirrel."

             


Personal Thought

This is the brush where start my THREE journey. I was looking for powder brush where I can use it on tacky base but still providing powder veil  as canvas to work with other powder product. 

When I first got it. I dip the flat side into the translucent powder, tap of all of excess powder. Do press and little roll into the skin. It provide enough powder adhesion to veil the tacky foundation magnificently with right touch of powder.

The brush is dense. It works very well with Translucent setting powder.
I can set the tacky base with this brush successfully. 

In harder nook like Nose, I use the slant side to reach mentioned area. This is where I feel very functionable. I also use this brush to apply bronzer in brontour manner as the angle side glide easily along above hollow of the cheek (The brush is too big to apply contour color to hollow of the cheek).

Lastly I use the tip to dust of the excess setting powder of the face which preform well similar to other powder brush however because the side is curved it can really hug the excess powder and brush off very well.

Please be aware that when I try with Colored Powder / Not fine mill powder, It is preform significantly worst than Powder Puff because the the powder will stuck into the brush unevenly.

I think this is most suitable for fine mill translucent powder.
I personally like the brush shape, I think the head of the brush like a little Bear Tail. :D 

Comparison

   

THREE Face Brush L  It's densest of my 3 powder brushes however, it is also the pricket but I would consider it is as moderate leans towards soft brush.

THREE Face Brush L is in similar length with Chikuhodo MK-1 but it more paddle / flatten. 

Lunasol Powder Brush L is much airy than THREE and not sufficient for setting powder, instead I like it more for allover bronzer application.

Sensation
When using the tip it is not prickly, however when you really press the powder into skin.
This is where you feel a little bit prick. I compare to Saikoho goat hair, this brush is a little bit pricker. But this brush apply powder in more softly manner than Saikoho brush.

It is much softer than original Mac Brush 128 / Nars Kabuki original collection.

Final
It's suite my need and perform well setting translucent powder. 

Other option: 
I find Yano Series Brush 02 Angled Powder seems to be very similar with softer hair option 







Wednesday, December 8, 2021

Olay : Moisturising Lotion

Olay : Moisturizing Lotion

Olay อาจจะเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดูเป็นผู้ใหญ่แบรนด์หนึ่ง กับสินค้าที่ดูจืดชืด ไม่ว่าจากมุมมองของเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ สินค้าส่วนมากทำการตลาดเชิงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่เบื้องหลักส่วนมากนั้นส่วนมากเป็น Active ตัวเดิมคือ Vitamin B3

แต่ถ้ามองย้อนดูให้ลึกลงซักนิด แต่เดิม Olay มีที่ไปที่มาอย่างยาวนานย้อนได้ถึงปี 1952 และเป็นแบรนด์ที่มีการทำการตลาดอย่างปราณีตมาโดยตลอด สินค้าที่มีประวัติมาอย่างยาวนานที่สุดคือ "The Original Pink Beauty Fluid"  นั้นซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีเครื่องสำอางค์ที่ล้ำยุคมากในสมัยนั้น แต่ก่อนจะเข้าไปถึงตัวผลิตภัณท์นั้น เราลองมาทำความรู้จักแบรนด์ให้เพิ่มขึ้นอีกซักนิดนะคะ

Olay ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ เดิมชื่อ "Oil of Olay" คะ ที่มานั้นมาจากส่วนผสมหลักตัวหนึ่งในครีมสูตรสมัยก่อนคือ "Laonin / ลาโอนิน" ก่อนจะตัดคำว่า "Oil of" ในปี 1999 เป็น Olay ที่เรารู้จักกัน

ถ้าถาม อาโกว อาม่า คุณย่า คุณยาย ว่าพวกท่านรู้จัก Olay ไหม ท่านจะไม่รู้จักคะ สมัยนั้นไทยเราเรียกว่า Oil of Ulan (หรืออูลาน) ซึ่งมาจากโฆษณาช่วงปี 1986 (ซึ่งเรารับต่อมาจาก Australia อีกที) คะ

 

สิ่งที่ทำให้ "Oil of Olay" โด่งดังสมัยนั้นคือ Moisturizer แบบโลชั่น ที่บางเบาแต่ชุ่มชื้นลึก ซึ่งผิดวิสัยกับครีมบำรุงสมัยนั้นที่มีเนื้อหนัก มีความรู้สึกเคลือบผิวสูง การที่ Oil of Olay ผลิต Moisturizer ในรูปแบบโลชั่นเป็นแบรนด์แรกๆที่มีการนำเสนอทางเลือกให้ผู้ใช้ สามารถเลือกได้ระหว่าง ครีม/โลชั่น ซึ่งสิ่งนี้ทำ Oil of Olay เป็นที่โด่งดังจนถึงทุกวันนี้

ถึงแม้ในปัจจุบัน Oil of Olay สูตรดั้งเดิมจะถูกแทนด้วยสินค้าที่แตกไลน์มากขึ้นเช่น "White Radiance", "Total Effect" และ "Regenerist" รวมถึง Clinical ไลน์อย่าง "Olay ProX" จน "The Original Pink Beauty Fluid" โดนแย่งซีนไปบ้างจนเริ่มเลือนลางไปจากตลาดแต่เค้าก็ไม่เคยหายไปไหนจริงๆ ยังอยู่ในตลาดเสมอ อาจจะเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสูตรบ้าง แต่ Legacy นี้ไม่เคยหายไปไหนคะ



Olay : Moisturizing Lotion อาจพอเรียกได้ว่าเป็นตัวตายตัวแทนของ The Original Pink Beauty Fluid จากยุคนั้น แต่มีการ reformulate ใหม่ให้บางเบามากขึ้นแต่เคลือบความชุ่มชื้นได้ดีเหมือนเดิม 
เนื่อโลชั่นมี สีชมพูอ่อน เนื้อบางเบา มันเล็กน้อย อยู่ในขวดรูปแบบบีบ รักษาความสะอาดได้ดีค่ะ

 Moisturizing Lotion ตัวนี้ก็ Moisturizer สมชื่อล่ะคะ คือไม่มีสารสกัดใดๆใส่เข้ามาเลย เป็น Base - Occlusive + Emollients ล้วนๆ - ตัวนี้เป็นหนึ่งใน Product ไม่กี่ตัวของ Olay ที่ไม่มีการใส่สารแอคทีฟตัวเอกอย่าง Niacinamide (Vitamin B3) ซึ่งอาจจะเป็นที่ชื่นชอบผู้ที่ Layering เครื่องสำอางค์ เพราะไม่รบกวนในแต่ละเลเยอร์

ด้านสูตรผสมมีความเป็น Moisturizer ในยุคเก่าที่นิยมสารเคลือบผิว (Occlusive ประกอบไปด้วยน้ำมันแร่ : Mineral Oil, ปิโตเลี่ยม : Petrolatum) แต่มีการประยุกต์ใส่ส่วนผสม Occlusive ยุคใหม่อย่าง (Dimethicone​ : ซิลิโคน) และมี Emollients (อย่าง Cetyl Alcohol, Sucrose Cocoate, Cetyl Ricinoleate) 

ในแง่ความรู้สึกหลังใช้ ตัวนี้จะให้ความรู้สึกเคลือบผิวบางๆ มีกลิ่นหอมแป้งอ่อนๆ ตามสมัยครีมยุคเก่า
เมื่อล้างหน้า หน้ามีความนุ่มและใสขึ้นเล็กน้อย เหมาะสมกับ บุคคลที่อยู่ในกลุ่มผิว ปกติ ผสม มัน และ เป็นสิวง่าย // กลุ่มคนหน้าแห้ง คิดว่ายังไม่พอค่ะ

ใครที่ชอบสกินแคร์ที่ 
มีความร่วมสมัย ดั้งเดิม เรียบง่าย และ อ่อนโยน ลองเอา Olay : Moisturizing Lotion เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกได้นะคะ

"WATER, GLYCERIN, SORBITAN STEARATE, DIMETHICONE, MINERAL OIL, PETROLATUM, CETYL RICINOLEATE, DIMETHICONOL, CETYL ALCOHOL, SUCROSE COCOATE, PHENOXYETHANOL, METHYLPARABEN, GLYCERYL HYDROXYSTEARATE, FRAGRANCE, STEARETH-100, DISODIUM EDTA, SODIUM HYDROXIDE, PROPYLPARABEN, CARBOMER, ACRYLATES/C10-30 ALKYL ACRYLATE CROSSPOLYMER, STEARIC ACID, PALMITIC ACID, CI 17200"
บล็อกนี้ขอลาไปก่อน ฉะแว้บ!

^ ^
( . _ . )

Have a good day <3

Bliss of Skin

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ blissofskin.blogger.com







Monday, December 6, 2021

Tool Review : Brush Studio SQ01 Blush Brush

ถ้าชอบเรื่องแปรงถึงระดับหนึ่ง เราจะเริ่มอยากได้ เปรงเล็กๆเพื่อเก็บรายละเอียดค่ะ
พวกแปรง ใต้ตา หน้าแก้ม ไฮไลท์ เราก็น่าจะเริ่มๆมอง Wayne Goss : The Airbrush หรือ SUQQU : Cheek Brush ซึ่งเป็นขนกระรอกเทา ตอนนั้นส่วนตัว ก็จะพลั้งมือกดมาแล้วค่ะ 

แต่คิดไปคิดมา ถ้าจะใช้ในชีวิตประจำตัว ราคาไม่สูงมาก
อยากได้ความทนทาน ไม่ค่อยเสียดายก็น่าจะเป็น
แปรงในกลุ่มขน กระรอกไพน์ จะตอบโจทย์มากกว่าเพราะมีความทนทานมากกว่า และ
ให้สี และ ความเข้มมากกว่ากระรอกเทา แต่ ทอนความเงา วาว ได้ดีกว่า

น่าเสียดายที่ตอนนั้น เราไม่สามารถหาแปรงทรงนั้นในไทยได้เลย
สรุปตอนนั้นหลังจากตามหาอยู่พักใหญ่ๆ เราไปเจอ Kyureido KM-005 ที่ Pre-order มาในราคาค่อนข้างน่ารัก  ตอบโจทย์เพราะเป็น Paddle shape และบาง ทำหน้าที่ point highlight ได้ดี
ตอนนั้นคิดว่าเป็นตัวจบของเราน่าพอแล้ว
...

จนกระทั่งมาพบ ว่า Brush Studio ร้านทำแปรงแต่งหน้ามีคุณภาพของไทย
ออกแปรงหน้าตาเหมือนกันออกมา เฉย! 


บน Kyureido KM-005 // Cheek Brush ล่าง Brush Studio SQ01 Blush Brush

ตอนแรกที่จะกด คือสองจิต สองใจเพราะเรามี Kyureido KM-005 แล้ว
ซึ่งเป็นขนกระรอกไพน์เหมือนกัน แถมขนาดยังใกล้กันอีก เพราะตอนแรก
หาในไทยไม่ได้ จึงต้องสั่งมาจากญี่ปุ่นตอนแรกจึงคิดว่าน่าจะไม่ได้กดแล้วล่ะคะ

(เราสั่งๆแคนๆใน Shopee อยู่ 3 รอบ) แต่ด้วยความประทับใจแปรงจากแบรนด์นี้ส่วนตัว 
เพราะแปรงร้านนี้มีคุณภาพสูง จึงคิดว่าลองอุดหนุน แปรงอันนี้
มาทำเป็น CR (Costumer Review) และลองทำ review เปรียบเทียบให้ดูดีกว่าค่ะ

ซ้าย Brush Studio SQ01 Blush Brush ขวา Kyureido KM-005 // Cheek Brush

Brush Studio SQ01 Blush Brush เป็นแปรงไสตล์ Paddle shape ค่ะ
ความยาวขน 3cm กว้าง 2cm มีความหนาอยู่ที่ 1cm

เทียบกับ Kyureido KM-005 // Cheek Brush ความยาวขนจะอยู่ที่ 3.2cm
กว้าง 1.75cm มีความหนาอยู่ที่ 0.5cm ค่ะ

ซ้าย Brush Studio SQ01 Blush Brush ขวา Kyureido KM-005 // Cheek Brush

Brush Studio SQ01 Blush Brush มีความใกล้เคียงกับแปรงของ Kyureido
เพียงแค่แปรงของ Brush Studio SQ01 นั้นมีความหนา (Dense) และสปริงตัวได้น้อยกว่า
เนื่องจาก ขนหนา และ สั้น

ทั้งคู่เป็นขนกระรอกไพน์ ที่มีความทนทานกว่าขนกระรอกเทา
ให้สัมผัสที่นุ่นนวลแต่มีความสู้มือกว่า จึงสามารถใช้น้ำหนักได้ดีค่ะ

หลายท่านอาจจะไม่ชินแปรงในลักษณะนี้ แต่ตัว Brush Studio SQ01 Blush Brush นั้น
ถ้าจะให้มอง จะเป็น Blush Brush ในไสตล์ญี่ปุ่นจ๋ามากๆ คือมีความ เล็ก สั้น และ กว้าง
จะให้ สีที่เข้มเป็นเฉพาะจุด หรือทำงานจุดที่เป็นรายละเอียด

แปรงไสตล์นี้ จะเหมาะมากๆกับงานที่ตัวทำเฉพาะจุด (งานเก็บรายละเอียด) เช่น
* ใช้เช็ต คอนชิลเลอร์ บริเวณใต้ดวงตา
* ปาดแก้มหน้า
* ทาไฮไลท์เฉพาะจุด บริเวณโหนกแก้ม ปากบน หน้าผาก
* คอนทัวร์บริเวณใต้โหนกแก้ม ขมับ และ ใต้คาง

เนื่องจากตัว Brush Studio SQ01 Blush Brush 
นั้นมีความหนาและสั้น จึงทำทำให้ทำงานได้หลากมิติมากกว่า
Kyureido

"คือ สามารถทำงานหน้าแก้ม และ คอนทัวร์ได้ดีเนื่องจากหนากว่า
แต่ Kyureido จะให้ความบางเบามากกว่า แต่ด้วยความบาง
จึงไม่สามารถทำหน้าแก้ม หรือ คอนทัวร์ได้ แต่ใช้เช็ตแปรงจุดแคบๆ
อย่าง Inner Corner ของดวงตาได้เป็นอย่างดี"

ส่วนตัวขนนั้นคุณภาพเท่ากับขนจากแปรงทางญี่ปุ่น ลองกดที่หลังมือ
นุ่นเท่ากัน แยกไม่ออกค่ะ


จุดที่แนะนำกับการใช้ : เช็ตแป้งใต้ตา, คอนทัวร์เส้นแคบ และ 
ไฮไลท์เฉพาะจุด (ควรเบามือ) จะเหมาะสมที่สุดค่ะ

บล็อกนี้ขอลาไปก่อน ฉะแว้บ!

^ ^
( . _ . )

Have a good day <3

Bliss of Skin

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ blissofskin.blogger.com


Sunday, June 9, 2019

[Skincare Review] Laneige Cream Skin Refiner, ฤานี่จะเป็นโฉมใหม่ของโลก Moisturiser?!?


Laneige Cream Skin Refiner

ด้วยความที่ไม่สามารถอดทนต่อความมหัศจรรย์ของ Laneige Cream Skin Refiner (150ml/ THB 950.- net - Tester Size 50ml, Not for sale) ที่เค้านำเสนอว่าเป็น "ครีมในรูปแบบน้ำ?!" ซึ่งเอาจริงๆคือ เออเรายกให้เป็น Best Innovation Skincare ในตลาดปี 2019 ตัวหนึ่งเลยทีเดียวนะ คือมันจริง! ถือว่าปลอมปะโลมผิวที่กำลังแสบเพราะการใช้ Peeling Gel อย่างเมามันส์ - -" หนูๆอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ

ก่อนอื่น ตัวนี้มันมหัศจรรย์ด้วยส่วนผสมเรื่องของ เนื้อสัมผัสล้วนๆ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาในรูปแบบน้ำ คือน้ำเลยจริงๆ ไม่ใช่น้ำเหนียวเหมือน น้ำตบ หรือเป็นอีมัลชั่นข้นๆ ซึ่งมันผิดวิสัยพวกสกินแคร์ที่มีน้ำมัน เพราะปกติถ้าในสูตรมีน้ำมัน มันจะก็ต้องข้นขึ้นไม่มากก็น้อยเหมือนพวกอีมัลชั่น / ครีมทาผิวนั่นล่ะ 

ตัวนี้พอทาเข้าไปแล้วเฮ้ยมันชุ่มชื้นมากเลยนะ แบบ ชุ่มชื้นเหมือนทาครีมเลย ผีหลอกมาก! ไม่จกตา ความรู้สึกคือมีอะไรเคลือบผิวนะแต่ในขณะเดียวกันมันไม่ได้มีฟิวลิ่งหนึบหนับเหมือนพวกไนท์ครีมเลยล่ะ


มาถึงเรื่องส่วนผสม ส่วนผสมที่มีประโยชน์ที่สุดในน้ำตบตัวนี้คือ Meadowfoam Seed Oil ซึ่งเราถือว่าทาง Laneige ฉลาด เพราะน้ำมันตัวนี้มีน้ำหนักเบามากและเป็นมิตรกับทุกสภาพผิว (ไม่ค่อยมีคนอุดตัน) ส่วนตัวเราชอบน้ำมันตัวนี้มากเพราะทำให้ผิว Glow ดูใสอิ่มน้ำขึ้นมากๆ น้ำมันตัวนี้ไม่ใช่ของใหม่ในโลกสกินแคร์ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมผสมในสกินแคร์ระดับ Counter Brand อย่าง Kose ก็ชอบใส่ส่วนผสมนี้มากเลย อาจด้วยปริมาตรต่อ ml อาจจะค่อนข้างแพงจ่ะ
ติดนึดนึงว่า - นอกจากน้ำมันตัวนี้แล้ว.. น้ำตบตัวนี้ไม่ได้มีส่วนผสมอื่นๆที่ช่วยบำรุงผิวเลย... สารสกัด Green Tea / Vitamin E ให้มาปริมาณน้อยกว่าสารกันเสียอีก...
แต่! เรายังอยากให้ทุกคนไปลองตัวนี้นะ Feeling มันแปลกใหม่มาก!
เหมาะกับหน้าร้อน เราแนะนำว่าตัวนี้ทุกคนอย่าเอามาใช้แทนน้ำตบตัวเดิมที่ใช้กันอยู่อย่าง Biotherm หรือ SKII เราอยากให้มองมันเป็น moisturizer ในรูปแบบน้ำจริงๆ 

- ควรใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังทาเซรั่มทุกตัวแล้ว หรือ
- ใช้เป็น Booster ก่อนจะทา moisturizer เหมือนความอิ่มน้ำขั้นสุด
- ถ้าใครจะใช้เป็นน้ำตบดูแลผิวหลังทำ Theatment มาก็โอเคนะ!

Final Verdict
ผิวแห้ง - แห้งมาก : ส่วนตัวเราคิดว่าส่วนตัวไม่พอ กลางวันอาจจะใช้เดี่ยวได้ แต่ตอนกลางคืนถ้าทาใช้ก่อนทา Mostierzer มันจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแน่ๆ 

ผิวผสม - ผิวมันขาดน้ำ : ตอบโจทย์เลย เพราะให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่เนอะ เราใช้แทน Day Cream เลยผิวหน้าดีขึ้นมั่กๆ  ส่วนตอนกลางคืนถ้าใครไม่ชอบเหนอะหนะ ตัวเดียวก็เอาอยู่จ่ะ
ผิวแพ้ง่าย - น่าลองเพราะตัวนี้ไม่ Alcohol, ไม่มี Silicone, ไม่มี Mineral Oil, ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีกลิ่น และ ไม่ใช้สารกันเสียในรูปแบบ Parabens
ส่วนผสม : Purified Water, Butylene Glycol, Glycerin, Meadowfoam Seed Oil, 1,2-Hexanediol, Polyglyceryl-10 Stearate, Glyceryl Stearate Citrate, Sodium Stearoyl Glutamate, Inulin Lauryl Carbamate, Glyceryl Caprylate, Ethylhexylglycerin, Propanediol, Disodium EDTA, Green Tea, Tocopherol

บล็อกนี้ขอลาไปก่อน ฉะแว้บ!

^ ^
( . _ . )

Have a good day <3

Bliss of Skin

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ blissofskin.blogger.com

Friday, October 6, 2017

[Skincare Review] โปรมากส์แผ่นละ 9 บาทจาก Watsons "SEP Canola Honey Nourishing Mask"


รีวิวแบบไวๆกับโปร 3 วันมากส์แผ่นละ 9 บาทที่โดนเรฟแรงๆ​จนหมดทุก Wastons
ตัวแม็บเองไปได้ 4 แผ่นสุดท้ายจากสาขา Time Square (แถมได้สูตรเดียวด้วยคือน้ำผึ้ง ฮือๆ)

จริงๆ Mask รุ่นนี้มี 4 สูตรคือ
Green Tea - Soothing, Canola Honey - Nourishing,
Tangerine - Brightening, Cactus Fruit - Moisturzing

เอาเป็นว่ารีวิวสูตรเท่าที่มีก่อนละกัน

 SEP Canola Honey - Nourishing Mask

(THB 9.- / 23 gram)


บางคนอาจสงสัย ดีสมราคา 9 บาทไหม?

มากส์ของ SEP เป็นมากส์ที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี
ราคาใกล้เคียงกับของ MJ หรือ BARONESS เฉลี่ย 15 - 19 บาทตามแต่ละช่วงโปรโมชั่น


MJ Sheet Mask

Baroness Sheet Mask

SEP มากส์ผลิตโดยบริษัท GDK ซึ่งผลิตมากส์ให้กับ Mediheal
หรือชื่อไทยคือ "มากส์แอมพูล" นั่นเองรุ่นที่ดังที่สุดในไทยก็คือ LINE x Mediheal mask นั่นเอง

LINE x Mediheal Ampule Mask

รุ่นน้ำผึ้งของ SEP ตัวนี้ Nourishing เน้นเรื่องการบำรุงด้านการต้านการระคายเคืองเช่นรอยแดง 
และปลอบประโลมผิวผิวที่มีสภาพไม่แข็งแรง ชั้นไคลผิวอ่อนแอ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่อง
สิวที่เกิดขึ้นจากการอักเสบเนื่องแบคทีเรียอีกด้วย

ไฮไลท์ส่วนผสมตัวต้นๆ

ครบตามมาตราฐานในกลุ่มปลอบประโลมผิว
มาแรงด้วยHoney / CentellaAsiatica - สารสกัดจากน้ำผึ้ง&ใบบัวบกซึ่งช่วยเรื่องผิวระคายเคือง
ตามด้วยRoyalJelly - อาหารผึ้งราชินี มีความชุ่มชื้นสูง มีผลในการแก้การอักเสบ ลดสิวเช่นกัน

Aloe Barbadensis - หรือว่านหางจระเข้ เป็นที่รู้กันในด้านการปลอบประโลมผิวที่มีอาการไหม้
Chamomilla Recutita Flower - สารสกัดดอกคาโมมายด์ปลอมประโลมและระคายเคืองผิว

ส่วนผสมอื่นๆที่ถือว่าเด็ดมี
Lavender / Origanum - ลาเวนเดอร์และออริกาโน่ช่วยเรื่องการผ่อนคลาย
SalixAlba Brak - สารสกัดเปลือกต้นวิลโล่ สรรพคุณคล้าย BHA แบบเบาๆ

Lactobacillus/soybeanFerment - จุลินทรีย์จากการหมักถั่วเหลือง ช่วยทำให้หน้าใส
SodiumHyaluronate - โชเดียม ไฮยาลูลอนเนด เน้นเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้ผิวชั้นใน

ที่พีคสุดๆคืออุตส่าห์ดรอป Peptide มาให้สองตัวคือ
AcetylHexapeptide-8 กับ CopperTripeptide-1 มาให้ด้วย
AcetylHexapeptide-8 ช่วยเรื่องการลดเลือนริ้วรอยโดยเป็นการ
CopperTripeptide-1 ช่วยเรื่องหลุมสิวเบาๆ

สรุป
มากส์ SEP สีเหลือง ช่วยเรื่องเสริมความแข็งแรงของผิวจริงครับ
หวังผลได้ภายใน 15 วัน จะเริ่มเห็นสัญญาณความแข็งแรงขึ้นของผิว 
และมีโทนผิวโดยร่วมดีขึ้นเนื่องจากโทนสีแดงของผิวที่น้อยลง
(ในกรณีใช้ติดต่อกันทุกวันนะจ๊ะ) 

ในราคานี้ล่ะ - คุ้มมากในราคา 9 บาทมากส์ที่ผสม Peptide มาให้ถึง 2 ตัว
กับสารช่วยปลอบประโลมผิวเยอะขนาดนี้
สารสกัดกลุ่มนี้หาในกลุ่มมากส์ 29 - 39 บาทใน Watsons ไม่มีนะจ๊ะ
ไปตำเถอะจ่ะ ใครไม่ตำ ชี้พิกัดให้เราหน่อย เราจะไปตำ

 Full ingredients list
Water,Glycerin,Glycereth-26,Methylpropanediol,Honey Extract,CentellaAsiatica Extract, LavenderFlower Extract, RoyalJelly Extract, AloeBarbadensis Leaf Extract, ChamomillaRecutita Flower Extract, OriganumVulgare Leaf Extract, ChamaecyparisObtusa Leaf Extract, SalixAlba Bark Extract, Lactobacillus/soybeanFerment Extract, PortulacaOleracea Extract, CinnamomumCassia Bark, ScutellariaBaicalensis Root Powder, HelianthusAnnuus Seed Extract, HederaHelix Extract, RosaCentifolia Flower Water, 1,2-Hexanediol,DipotassiumGlycyrrhizate, Betaine,Butylene Glycol,SodiumPolyacrylate, SodiumHyaluronate, AcetylHexapeptide-8, Arginine,Carbomer,CopperTripeptide-1, CaprylylGlycol, TocopherylAcetate, Trehalose,Phytic acid,PEG-60Hydrogenated Castor Oil, PEG-8,PPG-1-PEG-9LAURYL GLYCOL ETHER, HydroxyethylCellulose, HyaluronicAcid, Allantoin,Disodium EDTA,Phenoxyethanol,Methylparaben,Propylparaben,Fragrance

บล็อกนี้ขอลาไปก่อน ฉะแว้บ!

^ ^
( . _ . )

Have a good day <3

Bliss of Skin

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ blissofskin.blogger.com

Tuesday, April 9, 2013

[Skincare Review] Lactacyd เอามาล้างหน้า!?


แลคตาชิด เอามาล้างหน้า แลคตาชิด เอามาล้างหน้า แลคตาชิดเอามาล้างหน้า...
ได้จริงอ่ะ?!?

เป็นความคิดที่คลาแคลงใจขณะแรก ที่ได้ยินว่าสามารถเอา แลคตาซิด มาล้างหน้าได้
จะเพราะอะไรล่ะอีกครับ เพราะ แลคตาชิด มันเอาไว้ล้างของต่ำนี่น่า

Picture by iphone 4s
ยอมรับว่าตกใจมาก ตอนได้ยินว่า เอามาล้างหน้าแล้วหน้าใสนะตัวเธอว์
(จริงๆ ก็ได้ยินมานานมากกก แล้วแต่ก็ไม่กล้าเอามาล้างหน้าจริงๆ ซักที)
เอาน้ำยาล้างหน้าจิมมี่ กับ ปิ้กก้า มาล้างหน้า...
…ก็รู้สึกตะหงิดๆ

แต่พอเอามาคิดดีๆแล้วก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น

จริงแล้วๆ มันก็น้ำยา + Package = น้ำยาอะไรก็ว่าไป
แล้วก็โดนการตลาดบังคับว่า ต้องใช้อย่างนู้นต้องใช้อย่างงู้น อย่างงี้ต้องใช้อย่างงี้
การตลาดชัดๆ
- -

ก่อนที่จะออกทะเลไปมากกว่านี้ กลับมาเรื่องแลคตาชิดดีกว่าเนอะ
หลังจากศึกษาเรื่อง Ingredents ของพวกเครื่องสำอางค์ต่างๆ

ก็ต้องยอมรับว่า แลคตาซิด ก็ค่อนข้างมีดีนะตัวเธอว์
ก่อนอื่น น้ำยาตัวนี้มีดีที่สุดเรื่อง สารทำความสะอาดอ่อนโยน และ PH ที่เป็นกรดอ่อน 
ช่วยรักษาสภาพกรดอ่อนของผิวได้ แถมยัง ไม่มี SLS อีกด้วยครับ

โฟมล้างหน้าตัวเก่าก็หมด ลองซื้อมาลองหน่อยก็ได้ครับ
เดี่ยวได้ผลยังไงมาลองบอกเล่าให้ฟัง ในบล็อคหลังครับ

บล็อกนี้ขอลาไปก่อน ฉะแว้บ!
^ ^
( . _ . )


Have a good day <3

Bliss of Skin

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ blissofskin.blogger.com